1.แนวคิดเรื่องถิ่นเดิมของชนชาติไทย 1
แนวคิดนี้เชื่อว่าถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในบริเวณที่ปัจจุบันเป็นมณฑลซื่อชวน ฉ่านซี หูเป่ย์ อานฮุย หูหนาน เจียงซี แล้วจึงอพยพมาทางตอนใต้ของจีน และค่อยอพยพลงมาสูคาบสมุทรอินโอจีนและประเทศไทย
ศาสตราจารย์แตเรียง เดอ ลาคูเปอรี ( Terrien de Lacouperie ) เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้
นักวิชาการไทยหลายท่านสนับสนุน ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ หลวงวิจิตรวาทการ ( กิมเหลียง วัฒนปฤดา ) พระบริหารเทพธานี และพระยาอนุมานราชธน ( ยง เสถียรโกเศศ )
หลักฐานที่ใช้ในแนวคิดนี้มาจากหลักฐาน 3 แหล่งด้วยกัน ได้แก่ หลักฐานประเภทภาษาศาสตร์ ความคล้ายคลึงกันด้านภาษา หลักฐานเอกสารจีน ที่นักวิชาการตีความว่า ชนชาติที่ปรากฏในเอกสารจีนน่าจะเป็นชนชาติไทย
แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนักวิชาการส่วนใหญ่ไม่ยอมรับแนวคิดดังกล่าวนี้เนื่องจาก
- พื้นฐานทฤษฎีมาจากการตีความภาษาในเอกสารจีนร่วมกับหลักฐานทางด้านภาษาและความคล้ายคลึงของวัฒนธรรม แต่ว่ามีเหตุผลน้อยเกินไปในด้านความคล้ายของภาษา และขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นสิ่งที่สามารถถ่ายทอดกันระหว่างกลุ่มชนได้
- จากการค้นพบทางโบราณคดีที่หมู่บ้านซานซิงตุย มณฑลซื่อชน พ.ศ. 2519 พบประติมากรรมสำริดขนาดใหญ่จำนวนมากมีทั้งรูปคน ศีรษะและหน้าคน หล่อสำริดหลายขนาด เป็นของปลายสมัยราชวงศ์ชาง ล้วนแต่มีรูปร่างสัณฐานและใช้เครื่องนุ่งห่มต่างจากชนชาติไทย จึงเป็นหลักฐานยืนยันว่าไทยมิได้มีถิ่นเดิมอยู่ในบริเวณนี้
2. แนวคิดชนชาติไทยเป็นเชื้อสายมองโกล มีถิ่นเดิมอยู่แถบเทือกเขาอัลไต
แนวคิดนี้เชื่อว่า ชนชาติไทยมีเชื้อสายมองโกล เป็นชาติที่มีความเก่าแก่และเจริญรุ่งเรืองมาก่อนจีน ถิ่นเดิมน่าจะอยู่ในเขตอบอุ่นเหนือ ต่อมาได้เคลื่อนย้ายมาสู่ประเทศจีนและตั้งอาณาจักรของตนขึ้นมาเรียกว่า อาณาจักรอ้ายลาว จีนเรียกต้ามุง เมื่อประมาณ 1,700 ปีก่อนพุทธศักราช ต่อมาเมื่อชาวจีนมีความเข้มแข็งได้ขยายอิทธิพลเข้าไปในถิ่นของชาวไทยและแย่งชิงพื้นที่ทำมาหากิน ทำให้ชาวไทยอพยพไปหาที่ทำกินแหล่งใหม่เมื่อประมาณ 60 ปีก่อนพุทธศักราช โดยอพยพลงไปสู่ทางใต้ของจีน ต่อมาได้มีการขยายแนวคิดออกไป โดยนักประวัติศาสตร์รุ่นต่อมา
ดร.วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์ ( William Clifton Dodd ) เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้
มีนักประวัติศาสตร์รุ่นหลังได้ยืนยันและขยายแนวคิด เช่น ขุนวิจิตรมาตรา ( รองอำมาตย์โทสง่า กาญจนาคพันธ์ )
หลักฐานที่ใช้ในแนวคิดนี้มีที่มาจากหลักฐาน เอกสารของจีน พิจารณาความคล้ายคลึงด้านภาษาและขนบธรรมเนียมประเพณี ว่ามีความคล้ายคลึงกันระหว่างชนกลุ่มน้อยในไทยกับจีน หลักฐานทางด้านภาษาจากการตีความคำบางคำในท้องถิ่น
ปัจจุบันนักวิชาการต่างปฏิเสธแนวคิดนี้ เพราะมีเหตุผลและหลักฐานคัดค้านหลายประการ เช่น
- ที่นักวิชาการไทยบางท่านเห็นว่า ไต ชื่อเทือกเขาอัลไตเป็นภาษาไทย หมายถึงไท นั้น ศาสตราจารย์เฉินหลวี่ฟ่าน แย้งว่า อัลไตเป็นภาษาทูเจของเผ่าเชื้อสายตุรกีในจีน แปลว่า ทองคำ ทั้งนี้เพราะเทือกเขาอัลไตอุดมไปด้วยแร่ทองคำมิได้เกี่ยวข้องกับคำว่า ไท แต่อย่างใด
- สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของเทือกเขาอัลไตเป็นทุ่งหญ้าเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ ไม่เหมาะกับการดำรงชีพของชนชาติไทย
- พบภาพเขียนสีที่หน้าผาทางด้านใต้ของเทือกเขาอัลไตเป็นภาพสัตว์ต่าง ๆ ภาพคนขี่ม้าล่าสัตว์ ภาพการเลี้ยงปศุสัตว์ ภาพการฟ้อนรำ แสดงให้เห็นความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของกลุ่มชนเร่ร่อน มิใช่วัฒนธรรมของไทย
- การอพยพจากเทือกเขาอัลไตต้องเดินทางไกลมาก ผ่านทะเลทรายกว้างใหญ่ทุรกันดาร จึงไม่น่าเป็นไปได้ หรือถ้าเป็นไปได้ก็คงจะเหลือผู้รอดชีวิตไม่มากนัก
3. แนวคิดถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่บริเวณตอนใต้ของจีน
แนวคิดนี้เชื่อว่า ถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่บริเวณซึ่งปัจจุบันเป็นมณฑลหยุนหนาน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลกว่างตงของจีน ตอนเหนือเวียดนาม รัฐชานของพม่า และรัฐอัสสัมของอินเดีย
อาร์ซิยอลด์ รอสส์ คอนคูน ( Archibale Ross Colqhoun ) เป็นผู้เสนอแนวคิดนี้ ใน พ.ศ. 2426
แนวคิดนี้ได้รับการยอมรับสืบต่อมาในหมู่นักวิชาการไทยและต่างประเทศ เช่น พระยาประชากิจกรจักร พันตรี เอช. อาร์. เดวีส์ ( H. R. Davies ) วิลเฮล์ม เครดเนอร์ ( Wilhelm Credner ) ศาสตราจารย์วิลเลียม เจ เกดนีย์ ( William J. Gedney ) ศาสตราจารย์ขจร สุขพานิช รวมทั้งนักวิชาการจีน เช่น ศาสตราจารย์เจียงอิ้งเหลียง และศาสตราจารย์เฉินหลวี่ฟ่าน
หลักฐานที่สำคัญซึ่งเป็นพื้นฐานของแนวคิดนี้ คือ หลักฐานทางด้านมานุษยวิทยากับหลักฐานทางด้านภาษาศาสตร์ เป็นหลักฐานที่ได้มาจากการศึกษาการตั้งถิ่นฐาน วิถีการดำรงชีวิตในกลุ่มชนที่พูดภาษาตระกูลไทย พบว่า ชนกลุ่มนี้ตั้งถิ่นฐานกระจายเป็นบริเวณกว้างทางตอนใต้ของจีน ลักษณะวัฒนธรรมชนชาติไทยจะสัมพันธ์กัน
สรุปได้ว่า แนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่เป็นที่มีหลักฐานทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ นิรุกติศาสตร์ สนับสนุน จึงเป็นแนวคิดที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดร่วมกันในหมู่นักวิชาการ
4. แนวคิดถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในคาบสมุทรมลายูและหมูเกาะอินโดนีเซีย
แนวคิดนี้เชื่อว่า คนไทยมีเชื้อสายมลายู มีถิ่นกำเนิดในบริเวณหมู่เกาะอินโดนีเซีย ต่อมาอพยพมาทางเหนือยังประเทศไทย และขึ้นไปถึงมณฑลหยุนหนาน
รูธ เบเนดิกต์ ( Ruth Benedict ) เป็นผู้เสนอแนวคิดนี้ใน พ.ศ. 2485
มีนักวิชาการไทยสนับสนุน คือ นายแพทย์สมศักดิ์ พันธุ์สมบุญ
หลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้ คือ ข้อมูลทางด้านมานุษยวิทยา หลักฐานทางการแพทย์ด้านพันธุศาสตร์ การตรวจสอบกลุ่มเลือดและรหัสพันธุกรรม
แนวคิดนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ โดยมีเหตุผลและหลักฐานโต้แย้งคือ ไม่มีหลักฐานทางภาษาศาสตร์และประวัติศาสตร์สนับสนุน อีกทั้งขัดกับหลักที่ว่า วัฒนธรรมย่อมเคลื่อนย้ายจากต้นน้ำทางเหนือลงไปทางใต้ ส่วนเรื่องหมู่เลือดได้ใช้วิธีการที่ทันสมัยตรวจสอบพบว่า กลุ่มไทยดำและผู้ไทยชนที่พูดภาษากลุ่มตระกูลไทในเวียดนาม มีหมู่เลือดใกล้เคียงกับคนจีน ไม่ใกล้เคียงกับคนมาเลเซียและคนเขมร
5. แนวคิดถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในประเทศไทยปัจจุบัน
แนวคิดนี้เชื่อว่า ถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในประเทศไทย
ดร.ควอริตซ์ เวลส์ ( Quaritch Wales ) เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้
มีผู้เชี่ยวชาญด้านกายวิภาคศาสตร์ ให้การสนับสนุน คือ นายแพทย์สุด แสงวิเชียร นอกจากนั้นยังมีนักวิชาการ คือ ศรีศักร วัลลิโภดม และสุจิตต์ วงษ์เทศ
พื้นฐานข้อมูลแนวคิดนี้ มาจากการตีความหลักฐานทางโบราณคดี และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางโบราณคดี ได้แก่ เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีพสมัยต่าง ๆ โครงกระดูก ร่องรอยชุมชนที่มีหลักฐานแสดงกิจกรรมต่าง ๆ ในอดีต โบราณสถาน โบราณวัตถุทั้งสมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัยประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ถูกคัดค้านโดยนักวิชาการบางท่าน เช่น ศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงมีความเห็นว่า โครงกระดูกมนุษย์อาจแบ่งได้ 3 แบบ คือ คนผิวขาว คนผิวดำ และคนผิวเหลือง เมื่อทราบว่าโครงกระดูกที่ขุดพบที่บ้านเก่า เป็นโครงกระดูกคนผิวเหลืองแล้ว ถ้าจะพิสูจน์ว่าเป็นคนไทยก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ใช่คนชาติผิวเหลืองอื่น ๆ จึงจะลงความเห็นเป็นเช่นนั้นได้ นอกจากนี้ยังทรงเชื่อว่าคงมีคนไทยมาอยู่ในประเทศไทยปัจจุบันนานแล้ว แต่เป็นกลุ่มของชนกลุ่มน้อย ต่อมาคนไทยค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยอพยพจากภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนตามหลักด้านภาษาศาสตร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น