วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

1.แนวคิดเรื่องถิ่นเดิมของชนชาติไทย 1

                                                      1.แนวคิดเรื่องถิ่นเดิมของชนชาติไทย 1
แนวคิดนี้เชื่อว่าถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในบริเวณที่ปัจจุบันเป็นมณฑลซื่อชวน  ฉ่านซี  หูเป่ย์ อานฮุย หูหนาน เจียงซี แล้วจึงอพยพมาทางตอนใต้ของจีน และค่อยอพยพลงมาสูคาบสมุทรอินโอจีนและประเทศไทย
ศาสตราจารย์แตเรียง เดอ ลาคูเปอรี ( Terrien de Lacouperie ) เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้
นักวิชาการไทยหลายท่านสนับสนุน ได้แก่  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ หลวงวิจิตรวาทการ  ( กิมเหลียง วัฒนปฤดา )  พระบริหารเทพธานี   และพระยาอนุมานราชธน  ( ยง เสถียรโกเศศ )
หลักฐานที่ใช้ในแนวคิดนี้มาจากหลักฐาน 3 แหล่งด้วยกัน ได้แก่ หลักฐานประเภทภาษาศาสตร์ ความคล้ายคลึงกันด้านภาษา หลักฐานเอกสารจีน ที่นักวิชาการตีความว่า  ชนชาติที่ปรากฏในเอกสารจีนน่าจะเป็นชนชาติไทย
แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนักวิชาการส่วนใหญ่ไม่ยอมรับแนวคิดดังกล่าวนี้เนื่องจาก
-          พื้นฐานทฤษฎีมาจากการตีความภาษาในเอกสารจีนร่วมกับหลักฐานทางด้านภาษาและความคล้ายคลึงของวัฒนธรรม  แต่ว่ามีเหตุผลน้อยเกินไปในด้านความคล้ายของภาษา  และขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นสิ่งที่สามารถถ่ายทอดกันระหว่างกลุ่มชนได้
-             จากการค้นพบทางโบราณคดีที่หมู่บ้านซานซิงตุย มณฑลซื่อชน พ.ศ. 2519  พบประติมากรรมสำริดขนาดใหญ่จำนวนมากมีทั้งรูปคน  ศีรษะและหน้าคน  หล่อสำริดหลายขนาด  เป็นของปลายสมัยราชวงศ์ชาง  ล้วนแต่มีรูปร่างสัณฐานและใช้เครื่องนุ่งห่มต่างจากชนชาติไทย  จึงเป็นหลักฐานยืนยันว่าไทยมิได้มีถิ่นเดิมอยู่ในบริเวณนี้
 
2.    แนวคิดชนชาติไทยเป็นเชื้อสายมองโกล มีถิ่นเดิมอยู่แถบเทือกเขาอัลไต
 
แนวคิดนี้เชื่อว่า ชนชาติไทยมีเชื้อสายมองโกล  เป็นชาติที่มีความเก่าแก่และเจริญรุ่งเรืองมาก่อนจีน ถิ่นเดิมน่าจะอยู่ในเขตอบอุ่นเหนือ  ต่อมาได้เคลื่อนย้ายมาสู่ประเทศจีนและตั้งอาณาจักรของตนขึ้นมาเรียกว่า อาณาจักรอ้ายลาว จีนเรียกต้ามุง เมื่อประมาณ 1,700 ปีก่อนพุทธศักราช  ต่อมาเมื่อชาวจีนมีความเข้มแข็งได้ขยายอิทธิพลเข้าไปในถิ่นของชาวไทยและแย่งชิงพื้นที่ทำมาหากิน ทำให้ชาวไทยอพยพไปหาที่ทำกินแหล่งใหม่เมื่อประมาณ 60 ปีก่อนพุทธศักราช โดยอพยพลงไปสู่ทางใต้ของจีน ต่อมาได้มีการขยายแนวคิดออกไป  โดยนักประวัติศาสตร์รุ่นต่อมา
ดร.วิลเลียม  คลิฟตัน  ดอดด์  ( William  Clifton  Dodd )  เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้

มีนักประวัติศาสตร์รุ่นหลังได้ยืนยันและขยายแนวคิด เช่น ขุนวิจิตรมาตรา ( รองอำมาตย์โทสง่า  กาญจนาคพันธ์ )
หลักฐานที่ใช้ในแนวคิดนี้มีที่มาจากหลักฐาน  เอกสารของจีน  พิจารณาความคล้ายคลึงด้านภาษาและขนบธรรมเนียมประเพณี  ว่ามีความคล้ายคลึงกันระหว่างชนกลุ่มน้อยในไทยกับจีน หลักฐานทางด้านภาษาจากการตีความคำบางคำในท้องถิ่น
ปัจจุบันนักวิชาการต่างปฏิเสธแนวคิดนี้ เพราะมีเหตุผลและหลักฐานคัดค้านหลายประการ เช่น
-          ที่นักวิชาการไทยบางท่านเห็นว่า  ไต ชื่อเทือกเขาอัลไตเป็นภาษาไทย หมายถึงไท นั้น ศาสตราจารย์เฉินหลวี่ฟ่าน แย้งว่า อัลไตเป็นภาษาทูเจของเผ่าเชื้อสายตุรกีในจีน  แปลว่า  ทองคำ ทั้งนี้เพราะเทือกเขาอัลไตอุดมไปด้วยแร่ทองคำมิได้เกี่ยวข้องกับคำว่า ไท แต่อย่างใด
-          สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของเทือกเขาอัลไตเป็นทุ่งหญ้าเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ ไม่เหมาะกับการดำรงชีพของชนชาติไทย
-          พบภาพเขียนสีที่หน้าผาทางด้านใต้ของเทือกเขาอัลไตเป็นภาพสัตว์ต่าง ๆ ภาพคนขี่ม้าล่าสัตว์ ภาพการเลี้ยงปศุสัตว์ ภาพการฟ้อนรำ แสดงให้เห็นความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของกลุ่มชนเร่ร่อน มิใช่วัฒนธรรมของไทย
-          การอพยพจากเทือกเขาอัลไตต้องเดินทางไกลมาก ผ่านทะเลทรายกว้างใหญ่ทุรกันดาร จึงไม่น่าเป็นไปได้ หรือถ้าเป็นไปได้ก็คงจะเหลือผู้รอดชีวิตไม่มากนัก
 
3.    แนวคิดถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่บริเวณตอนใต้ของจีน
 
            แนวคิดนี้เชื่อว่า ถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่บริเวณซึ่งปัจจุบันเป็นมณฑลหยุนหนาน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง  และมณฑลกว่างตงของจีน  ตอนเหนือเวียดนาม  รัฐชานของพม่า  และรัฐอัสสัมของอินเดีย
            อาร์ซิยอลด์  รอสส์  คอนคูน  ( Archibale  Ross  Colqhoun ) เป็นผู้เสนอแนวคิดนี้  ใน พ.ศ. 2426
            แนวคิดนี้ได้รับการยอมรับสืบต่อมาในหมู่นักวิชาการไทยและต่างประเทศ เช่น พระยาประชากิจกรจักร  พันตรี เอช.  อาร์.  เดวีส์  ( H.  R. Davies ) วิลเฮล์ม  เครดเนอร์ ( Wilhelm  Credner )  ศาสตราจารย์วิลเลียม  เจ  เกดนีย์  ( William  J.  Gedney )  ศาสตราจารย์ขจร  สุขพานิช  รวมทั้งนักวิชาการจีน  เช่น  ศาสตราจารย์เจียงอิ้งเหลียง และศาสตราจารย์เฉินหลวี่ฟ่าน
            หลักฐานที่สำคัญซึ่งเป็นพื้นฐานของแนวคิดนี้  คือ  หลักฐานทางด้านมานุษยวิทยากับหลักฐานทางด้านภาษาศาสตร์  เป็นหลักฐานที่ได้มาจากการศึกษาการตั้งถิ่นฐาน  วิถีการดำรงชีวิตในกลุ่มชนที่พูดภาษาตระกูลไทย  พบว่า  ชนกลุ่มนี้ตั้งถิ่นฐานกระจายเป็นบริเวณกว้างทางตอนใต้ของจีน ลักษณะวัฒนธรรมชนชาติไทยจะสัมพันธ์กัน
สรุปได้ว่า  แนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่เป็นที่มีหลักฐานทางโบราณคดี  ประวัติศาสตร์ นิรุกติศาสตร์ สนับสนุน  จึงเป็นแนวคิดที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดร่วมกันในหมู่นักวิชาการ
 
4.    แนวคิดถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในคาบสมุทรมลายูและหมูเกาะอินโดนีเซีย
 
            แนวคิดนี้เชื่อว่า  คนไทยมีเชื้อสายมลายู  มีถิ่นกำเนิดในบริเวณหมู่เกาะอินโดนีเซีย  ต่อมาอพยพมาทางเหนือยังประเทศไทย  และขึ้นไปถึงมณฑลหยุนหนาน

            รูธ  เบเนดิกต์  ( Ruth  Benedict ) เป็นผู้เสนอแนวคิดนี้ใน พ.ศ. 2485

มีนักวิชาการไทยสนับสนุน คือ นายแพทย์สมศักดิ์  พันธุ์สมบุญ
            หลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้  คือ  ข้อมูลทางด้านมานุษยวิทยา  หลักฐานทางการแพทย์ด้านพันธุศาสตร์  การตรวจสอบกลุ่มเลือดและรหัสพันธุกรรม

            แนวคิดนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ  โดยมีเหตุผลและหลักฐานโต้แย้งคือ  ไม่มีหลักฐานทางภาษาศาสตร์และประวัติศาสตร์สนับสนุน  อีกทั้งขัดกับหลักที่ว่า  วัฒนธรรมย่อมเคลื่อนย้ายจากต้นน้ำทางเหนือลงไปทางใต้  ส่วนเรื่องหมู่เลือดได้ใช้วิธีการที่ทันสมัยตรวจสอบพบว่า  กลุ่มไทยดำและผู้ไทยชนที่พูดภาษากลุ่มตระกูลไทในเวียดนาม  มีหมู่เลือดใกล้เคียงกับคนจีน  ไม่ใกล้เคียงกับคนมาเลเซียและคนเขมร

 
5.    แนวคิดถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในประเทศไทยปัจจุบัน
                                               

            แนวคิดนี้เชื่อว่า  ถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในประเทศไทย

            ดร.ควอริตซ์  เวลส์  ( Quaritch  Wales )  เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้

            มีผู้เชี่ยวชาญด้านกายวิภาคศาสตร์  ให้การสนับสนุน  คือ  นายแพทย์สุด  แสงวิเชียร  นอกจากนั้นยังมีนักวิชาการ  คือ  ศรีศักร  วัลลิโภดม  และสุจิตต์  วงษ์เทศ

            พื้นฐานข้อมูลแนวคิดนี้  มาจากการตีความหลักฐานทางโบราณคดี  และหลักฐานทางประวัติศาสตร์  หลักฐานทางโบราณคดี  ได้แก่  เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีพสมัยต่าง ๆ  โครงกระดูก  ร่องรอยชุมชนที่มีหลักฐานแสดงกิจกรรมต่าง ๆ ในอดีต  โบราณสถาน  โบราณวัตถุทั้งสมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัยประวัติศาสตร์

            อย่างไรก็ตาม  แนวคิดนี้ถูกคัดค้านโดยนักวิชาการบางท่าน  เช่น  ศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ  ดิศกุล  ทรงมีความเห็นว่า  โครงกระดูกมนุษย์อาจแบ่งได้  3  แบบ คือ  คนผิวขาว  คนผิวดำ  และคนผิวเหลือง  เมื่อทราบว่าโครงกระดูกที่ขุดพบที่บ้านเก่า  เป็นโครงกระดูกคนผิวเหลืองแล้ว  ถ้าจะพิสูจน์ว่าเป็นคนไทยก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ใช่คนชาติผิวเหลืองอื่น ๆ จึงจะลงความเห็นเป็นเช่นนั้นได้  นอกจากนี้ยังทรงเชื่อว่าคงมีคนไทยมาอยู่ในประเทศไทยปัจจุบันนานแล้ว  แต่เป็นกลุ่มของชนกลุ่มน้อย  ต่อมาคนไทยค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น  โดยอพยพจากภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนตามหลักด้านภาษาศาสตร์

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น