20.การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยในสมัย สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยสุโขทัย
การสร้างสรรค์ผลงานด้านภูมิปัญญาในสมัยสุโขทัยมีตัวอย่างพอสังเขป ดังนี้
1. การใช้หลักธรรมและคติความเชื่อทางพุทธศาสนาควบคุมพฤติกรรมของคนในสังคม
การปลูกฝังนิสัยของคนไทยในสมัยสุโขทัยให้มีศีลธรรมเพื่อความสงบสุขของสังคมส่วนรวมอาศัยประโยชน์จากการประยุกต์หลักคำสอนในพุทธศาสนา เช่น
การนำเรื่องราวในหนังสือไตรภูมิพระร่วงซึ่งเป็นวรรณกรรมปรัชญาชิ้นแรกของไทยที่พระราชนิพนธ์โดยพระมหาธรรมราชาที่ 1
หรือพระยาลิไทมาสอนจริยธรรมให้คนทำดีและเกรงกลัวต่อบาป
2. การประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นมาใช้เป็นแบบฉบับของตนเอง
อักษรไทยที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชในปีพ.ศ. 1826 ที่เรียกว่า “ลายสือไทย” เป็นภูมิปัญญาการเขียนอักษรไทยเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งดัดแปลงมาจากอักษรขอมหวัด อักษรหราหมีและอักษรคฤนห์
นอกจากนี้พ่อขุนรามคำแหงมหาราชยังได้ใช้ลายสือไทยบันทึกเรื่องราวพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระองค์ ตลอดจนการเมืองการปกครอง
สภาพบ้านเมืองและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยนั้นในศิลาจารึกหลักที่ 1 อีกด้วย
3.
การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านประติมากรรมและสถาปัตยกรรม
ในสมัยนี้เริ่มมีการนำศิลาแลงมาสร้างอาคารสถานที่ต่างๆ
เช่นที่พบเห็นในกำแพงเมืองชั้นในของเมืองศรีสัชนาลัย
นอกจากนี้ยังค้นพบการผสมตะกั่วลงไปในสำริดเพื่อทำให้โลหะหลอมได้ง่ายขึ้น
และทำให้วัตถุที่หล่อมีคุณภาพเพียงพอสำหรับทำภาชนะ
เครื่องประดับและเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีรูปร่างซับซ้อนได้
ยกเว้นประติมากรรมพระพุทธรูปสำริด
ซึ่งไม่นิยมผสมตะกั่วลงไปเพราะต้องการสร้างให้แข็งแกร่งทนทาน
4. การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ
ชาวสุโขทัยได้ใช้ภูมิปัญญาในการแก้ไขข้อจำกัดทางธรรมชาติและสภาพภูมิประเทศด้วยการสร้างระบบชลประทาน
โดยมีการชักน้ำจากที่สูงทางด้านตะวันตกของสุโขทัยด้วยการสร้างแนวคันดินเพื่อทำหน้าที่บังคับทิศทางของน้ำให้ไหลจากหุบเขามาสู่คูเมืองและสระน้ำในเมือง
แนวคันดินสำหรับเบี่ยงเบนทิศทางของน้ำนี้เรียกว่า “ทำนบพระร่วง”
หรือที่นักวิชาการหลายท่านเรียกชื่อว่า “สรีดภงส์”
ตามชื่อที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 นอกจากนี้ยังมีการสร้าง “ตระพัง” หรือสระสำหรับเก็บน้ำ น้ำที่ถูกชักไปตามคลองส่งน้ำและลำเลียงไปสู่กำแพงเมืองเก่าจะไหลเข้าสู่สระตระพังเงินสระตระพังทองเพื่อใช้สอยในเมืองและพระราชวังในสมัยสุโขทัย
5. การเคลือบเครื่องปั้นดินเผาสมัยสุโขทัย
ในสมัยสุโขทัยมีการปั้นภาชนะด้วยดินเหนียวหรือดินขาว
ก่อนนำไปเผาในเตาอุณหภูมิสูงและเคลือบให้สวยงาม ซึ่งเรียกว่า
“เครื่องสังคโลก”
สีของเครื่องเคลือบมักเป็นสีเขียวไข่กามีสีน้ำตาลบ้างประปราย
หลักฐานเตาเผาที่ถูกค้นพบเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าในสมัยสุโขทัยได้มีการผลิตเครื่องปั้นดินเผาเป็นอุตสาหกรรมเพื่อประโยชน์ใช้สอย และเพื่อค้าขายในชุมชนและหัวเมืองใกล้เคียงด้วย
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา
การสร้างสรรค์ผลงานด้านภูมิปัญญาในสมัยอยุธยามีตัวอย่างพอสังเขป ดังนี้
1. การสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นศูนย์รวมอำนาจ
การที่อยุธยาติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ภูมิปัญญาของชนชาติอื่น และนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนในสมัยนั้น
อยุธยาได้นำรูปแบบการปกครองแบบเทวราชาที่เชื่อว่ากษัตริย์คือสมมุติเทพหรือเทพเจ้าจุติลงมาปกครองประชาชนมาจากเขมรซึ่งรับต่อมาจากอินเดีย การปกครองแบบนี้จะให้ความสำคัญและอำนาจในการปกครองบ้านเมืองกับกษัตริย์อย่างมาก
2. การแต่งแบบเรียนสำหรับคนไทย
พระโหราธิบดีในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแต่งหนังสือจินดามณีให้ชาวอยุธยาใช้ในการศึกษาภาษาไทยเพื่อให้อ่านออกเขียนได้ จินดามณีถือเป็นหนังสือแบบเรียนสำหรับคนไทยเล่มแรกในประวัติศาสตร์
3.
การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย
บรรดาหมอหลวงในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ร่วมกันรวบรวมตำรับยาต่างๆทั้งไทยและเทศขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติการแพทย์ไทยซึ่งเรียกว่า
“ตำราพระโอสถพระนารายณ์” ซึ่งตำราเหล่านี้ยังตกทอดมาถึงทุกวันนี้
4.
ความเฟื่องฟูทางศิลปกรรมแขนงต่างๆ
ในสมัยอยุธยามีการสร้างสรรค์งานศิลปะในหลายแขนง
ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรมหรือประณีตศิลป์
ตัวอย่างศิลปะยุคนี้ ได้แก่ พระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง
จิตรกรรมฝาผนังโบสถ์และวิหาร งานเครื่องไม้จำหลัก งานปูนปั้น
การทำลายรดน้ำ งานประดับมุก รวมไปถึงงานเขียนลวดลายเครื่องเบญจรงค์
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยธนบุรี
สมัยธนบุรีเป็นช่วงเวลาสั้นเพียง 15 ปีเท่านั้น
ศิลปกรรมต่างๆที่สร้างขึ้นคงเป็นไปตามแบบอย่างของอยุธยา
จึงผนวกรวมเข้าไว้ในศิลปวิทยาการสมัยอยุธยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น